ยกฐานะจาก อบต. มาเป็นเทศบาล มีผังเมืองติดเขตป่า เป็นเทศบาลที่ไม่มีถังขยะ และไม่มีรถขยะ ผู้บริหารใช้ระยะเวลา 4 ปี ปรับทัศนคติของคนในชุมชน ข้าราชการในสังกัด เพราะทุกคนจะต้องรู้จักหน้าที่ตัวเองก่อน จึงจะพัฒนาได้ เป็นอีกหนึ่งเทศบาลที่ไม่มีกองสาธารณสุข แต่สามารถบริหารจัดการขยะได้ เพราะทุกคนต้องเข้าใจเรื่องขยะให้ตรงกัน การบริหารจัดการขยะจึงง่ายขึ้น แม้จะมีการเรียกร้องให้มีรถขยะ ผู้บริหารจึงทำประชาคม “ถ้าให้เอาขยะที่สร้างขึ้นมา แล้วหาพื้นที่ทิ้งในหมู่บ้านตนเองจะยินยอมได้ไหม” ผลปรากฏว่าไม่มีหมู่บ้านใดยินยอม จึงไม่จำเป็นต้องมีรถขยะ และมีแนวคิดว่า “สังคมดี สิ่งแวดล้อมดี สุขภาพดี ภาคีมีส่วนร่วม” มีการจัดตั้งกลุ่มต่างๆในชุมชนและจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อขอรับงบประมาณสนับสนุนในการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น

**โครงการพาใจกลับบ้าน / บ้านน่าอยู่ ชุมชนน่ามอง / ป่านิเวศ ประเทศไทยไทรย้อย

**การดำเนินงานภายใต้การขับเคลื่อนจากประชาชน “ประชาชนคิดเอง ทำเอง ทต.เข้าไปทำความเข้าใจ คอยสนับสนุนงบประมาณ รวมทั้งด้านสุขภาพ งบประมาณจาก สปสช.

**มีกองทุนสวัสดิการ

**มีรถรับส่งผู้ป่วยที่ต้องการไปรพ.

ท่านนายกยังกล่าวอีกว่า “หน้าที่ของเรา คือผู้บังคับบัญชาของเราเอง”